ยินดีต้อนรับเข้าสู๋ pinyaput25.blogspot.com ค่ะ

ย้อนลอย..........อดีต


ฝากความคิดถึง...และห่วงใย


วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความรู้ที่ได้จากการเรียน Photo Shop
วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
โดยอาจารย์ผู้สอน สุจิตตรา จันทร์ลอย


ความรู้ที่ได้จากการเรียน Adobe Photoshop
การพิมพ์ข้อความ ก่อนพิมพ์ข้อความมาเข้าใจความหมายของเลเยอร์กันก่อน

เลเยอร์ (Layer) เป็นการซ้อนภาพเหมือนกับนำแผ่นใสที่มีภาพซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ซึ่งบริเวณของ
แผ่นใสที่ไม่มีรูปก็จะสามารถมองเห็นทะลุถึงแผ่นใสที่อยู่ชั้นล่างได้และเมื่อนำทุกแผ่นใสทุกชั้นมาวางซ้อนทับกัน จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพที่สมบูรณ์ การใช้เลเยอร์จะช่วยให้เราจัดวางงานได้ง่าย เนื่องจากแต่ละเลเยอร์ทำงานเป็นอิสระต่อกัน มีคุณสมบัติต่างๆ เป็นของตัวเอง จึงทำให้การแก้ไขที่เราทำในแต่ละเลเยอร์นั้นไม่ส่งผลต่อเลเยอร์อื่นๆ



ขั้นตอนการทำ
1. เริ่มต้นด้วยการสร้าง layer โดยคลิกที่คำสั่ง File แล้วคลิก New
2. กำหนดขนาดพื้นที่ในช่อง Preser
3. สร้างตัวอักษรโดยคลิกที่เครื่องมือรูปตัว T แล้วเลือก Horizontal type tool
4. พิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป เมื่อได้ข้อความแล้วให้คลิกที่ Move tool หากต้องการขยาย

ข้อความให้คลิกที่คำสั่ง Edit แล้วเลือก Free transform หรือกด Ctrl+t เมื่อเสร็จแล้วกด Enter







-การทำอักษรให้มีเงา ด้วยเครื่องมือ Add a layer style fx และเลือกคำสั่ง Drop shadow ก็จะได้ภาพดังนี้













- การทำตัวอักษรให้นูน โดยเลือกคำสั่ง Bevel and Emboss ถ้าเปลี่ยนในช่อง Style ให้เป็น

Emboss ก็จะได้ตัวอักษรที่เป็นตัวนูน ดังรูป












-การใส่เส้นขอบให้กับตัวอักษรด้วยคำสั่ง Stroke ได้รูปดังนี้








การทำตัวอักษรให้มีรูปอยู๋ข้างใน


ขั้นตอน
1. คลิกที่ File เลือก Open เลือกรูปภาพมาหนึ่งรูป
2. คลิกที่ตัว T เลือก Horizontal type mask tool แล้วคลิกพิมพ์ข้อความลงไป
3. คลิกเลือก Move tool ส่วนที่เราพิมพ์ข้อความจะเปลี่ยนเป็นเส้นประ
4. คลิกที่ File เลือก New
5. ลากส่วนที่ตัวอักษรเป็นเส้นปะลากลงมาในพื้นที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่
6. Copy layer ด้วยการคลิกที่ layer แล้วลากไปใส่ใน Create a new layer
7. คลิกเมาส์ค้างลากตัวอักษรลงมา ก็จะได้อักษร 2 ชุด
8. จากนั้นก็ทำตัวอักษรตัวแรกให้มีสีสันครบถ้วนก่อน จากนั้นกดปุ่ม Ctrl+t เพื่อกลับหัวตัว
อักษรตัวที่ 2 แล้วก็ปรับแต่งให้เป็น Gradient Overdient Overlay ก็จะได้รูปดังภาพ













.......................................................................................จบ


วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา
(INNOVATION AND INFORMATION TECHNOLOGY IN EDUCATION)



โดยอาจารย์ผู้สอน : ผศ.วิวรรธน์ จันทร์เทพย์ ,อ.มงคล ภวังคนันท์
อ.สุจิตตรา จันทร์ลอย


จุดประสงค์การเรียนรู้
1.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมาย หลักการ และแนวความคิดของนวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศทางการศึกษาได้อย่างถูกต้อง
2.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายถึงระบบการเรียนรู้ กระบวนการสื่อความหมาย สื่อเพื่อการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง 3.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายถึงการแสวงหา การเลือก การใช้และการเก็บรักษานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างถูกต้อง
4.ให้ผู้เรียนสามารถอธิบายถึงหลักการพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนรู้ที่เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างถูกต้อง
5.ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาและแสวงหาแหล่งเรียนรู้ เครือข่ายการเรียนรู้ ที่เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศได้
6.ให้ผู้เรียนสามารถออกแบบ สร้าง ใช้ ประเมินและพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนรู้ที่เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะสมกับท้องถิ่นของตนได้

............................................................. ข้อสอบ 12 ข้อ

ข้อสอบ วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม
1.นวัตกรรมคืออะไร
นวัตกรรมคือความคิด การกระทำใหม่ๆ ที่นำมาใช้ ปรับปรุง เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินงาน คำหลักของนวัตกรรม คือ ของใหม่นำ มาปรับปรุง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.วัตกรรมตรงกับภาษาอังกฤษคือ Innovation
3.สิ่งที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมคืออะไร
คือสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ มีการวิจัย ทดลอง มีการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่เป็นส่วนหนึ่งของงานในปัจจุบัน
4.ท่านมีแนวทางในการสร้างนวัตกรรมอย่างไร
คือของที่เราคิดเองของใหม่ที่เราไปศึกษาดูงานมาแล้วนำมาปรับปรุง- การปรับปรุงเทคโนโลยีขึ้นมาใหม่ให้มีประสิทธิภาพและนำมาใช้ประโยชน์ได้
5.เทคโนโลยีคืออะไร
คือการค้นพบทางด้านวิทยาศาสตร์แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
6.เทคโนโลยีตรงกับภาษาอังกฤษคือ Technology
7.เทคโนโลยีตรงกับภาษากรีกคือ Techno logia
8.เทคโนโลยีตรงกับภาษาละตินคือ TEXERE
9.ข้อใดที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีตามความหมายทางทัศนวิทยาศาสตร์กายภาษา
คือ เครื่องยนต์- กลไกล- ไฟฟ้า- อิเลคทรอนิคส์
10.ข้อใดที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีตามความหมายทางพฤติกรรมศาสตร์
คือภาพรวมของการใช้ เครื่องยนต์ กลไกล ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ โดยจะมองถึงการกำเนิดของสิ่งเหล่านี้
11.เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างกันอย่างไร
เทคโนโลยีนวัตกรรม ปรับปรุงของใหม่ๆ วิจัย ทดลอง ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ และไม่เป็นส่วนหนึ่ง
ของงานในปัจจุบัน
12.เทคโนโลยีและนวัตกรรมอะไรเกิดก่อนกัน
แล้วแต่ว่าจะวางที่ตั้งไว้ที่ใด เพราะสิ่งใหม่ๆ(นวัตกรรม)พัฒนาให้มีประสิทธิภาพก็จะเป็นเทคโนโลยี
หรือ การพัฒนาเทคโนโลยีจนเกิดเป็นสิ่งใหม่ๆที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จะกลายเป็นนวัตกรรม


..................................................................................................................................
ความหมายของการศึกษาและการเรียนรู้
ความหมายของการศึกษา ( Aducation )

1. จอห์น ดิวอี้ (John Deway )
ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้หลายความหมาย คือ
1. การศึกษาคือ ชีวิต ไม่ใช่เตรียมตัวเพื่อชีวิต
2. การศึกษาคือ ความเจริญงอกงาม
3. การศึกษาคือ กระบวนการทางสังคม
4. การศึกษาคือ การสร้างประสบการณ์แก่ชีวิต

2. คาร์เตอร์ วี.กู๊ด ( Carter V. Good )
ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ 3 ความหมายคือ
1. การศึกษาหมายถึง กระบวนการต่างๆ ที่บุคคลนำมาใช้ในการพัฒนาความรู้ ความสามารถ เจตคติ ความประพฤติ
ที่ดีมีคุณค่าและมีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับนับถือของสังคม
2. การศึกษา เป็นกระบวนการทางสังคมที่ทำให้บุคคลได้รับความรู้ความสามารถจากสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนจัดขึ้น
3. การศึกษาหมายถึง การถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ที่รวบรวมไว้อย่างเป็นระเบียบให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษา

3. ดร.สาโช บัวศรี
ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ว่า การศึกษาหมายถึง การพัฒนาบุคคลและสังคมที่ทำให้คนได้มีการเรียนรู้
และพัฒนาขึ้นไปสู่ความเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม

4. สรุปโดย ( ภิญญาพัชญ์ ไหวประเสริฐ ) การศึกษา เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้เพื่อนำความรู้ที่ได้นำไปพัฒนาชีวิต
ความเป็นอยู่ของบุคคลนั้นๆ ให้มีความเป็นปกติสุขร่วมกันของคนในสังคมมนุษย์


ความหมายของการเรียนรู้ (Learning)

การเรียนรู้
มีผู้ให้ความหมายของการเรียนรู้ไว้ต่างๆ กันดังนี้




การเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ดีขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด
การเรียนรู้ คือ การที่บุคคลเจริญงอกงามขึ้นทั้งทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และสามารถปรับตนเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม
การเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในตัวผู้เรียนทุกชนิด ทั้งด้านดีและไม่ดีแต่โดยทั่วไปต้องการเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีให้แก่บุคคล
การเรียนรู้อาจแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1.การเรียนรู้ด้วยตนเอง คือ การเรียนรู้ที่ต้องศึกษาค้นคว้า และทำความเข้าใจ

กับสิ่งที่เรียนด้วยตนเอง โดยไม่มีผู้อื่นมาคอยช่วยเหลือหรือแนะนำให้
2.การเรียนรู้โดยมีครูสอน คือ การเรียนรู้ที่ต้องมีบุคคลเป็นผู้คอยชี้แนะแนวทางหรืออำนวยความสะดวกในการเรียนให้แก่ผู้เรียน ประสิทธิภาพของการเรียนรู้
โดยวิธีนี้ขึ้นอยู๋กับความสามารถและเทคนิคการสอนของครู นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่
กับประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งหมายถึงวิธีเรียนและความสามารถของ
ผู้เรียน
กล่าวโดยสรุป
การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลอันเป็นผลมาจากประสบการณ์ต่างๆ เพื่อให้ สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและสังคมได้และโดยปกติการเรียนรู้ของมนุษย์ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากสภาวะหนึ่งไปสู่อีกสภาวะหนึ่งที่ดีขึ้น เช่น จากไม่รู้เป็นรู้ จากทำไม่ได้เป็นทำได้ เป็นต้น


..............................................................................................